วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

story 2

ตอนคุย MSN วันนั้น มันมีเพื่อนใหม่คนนึงที่เราถูกใจมาก ก็เป็นคนที่เพื่อนๆลากเรามาเนี่ยแหละ นางอยู่ห้องเดียวกัน ชั้น ม.4/7 เธอใช้ชื่อ MSN ว่า ลิงน้อย ตอนนั้นเราไม่เอะใจอะไรสักนิด

เราคุยกันใน MSN ได้ 2 วัน วันนั้นเป็นวันอาทิตย์พอดี เราก็แกล้งกัน หยอกกันไปมาใน MSN มันสนิทอย่างบอกไม่ถูก เค้าถามว่าเราหน้าตาเป็นยังไง เราก็บอกว่า "อ้วน ดำ ผมหยิก" 55555 แกล้งเธอนี่มันสนุกจริงๆ ยังไม่จบๆ วันนั้นเธอขอเบอร์เรา เราก็บอกเบอร์เราไปนั่นแหละ ทีนี้เธอก็โทรมาเลย เราเห็นละแหละ แต่เธอก็พิมพ์มาใน MSN ว่า "เค้าโทรไปแล้วนะ" เราก็พิมพ์กลับไปว่า "เฮ้ย! นั่นไม่ใช่เบอร์เค้า เค้าล้อเล่น" และทันใดนั้นเอง เราก็กดรับ 

"ฮัลโหล"

เธอตกใจมาก พิมพ์มาใน MSN ว่า 
"ทำไงดี เค้ารับแล้วอ่ะ" 

เราเลยพูดว่า 

"ก็บอกเค้าว่า ขอโทษค่ะ โทรผิด ไรเงี้ย"

ปรากฏว่า เธอเชื่อด้วยว่ะ 55555

ก่อนที่เธอจะวางสาย เราเลยหัวเราะแล้วบอกเธอว่า "เฮ้ย ล้อเล้น นี่เบอร์เค้าเอง ไม่แกล้งแล้ว" 
พร้อมกับหัวเราะยาวๆ ก็มันขำอ่ะ 555555

เธอก็ งงๆ ถามว่า "นี่สรุปนี่เบอร์เราเหรอ" แล้วก็งอนเบาๆ ที่เราแกล้งเธอ 55555 แต่เธอน่ารักจริงๆนะ ถ้าน่ารีกเราไม่แกล้งหรอก จุ๊บุ >3<

เราก็โทรคุยกันนะ เธอก็ยังถามอีกว่า อ้วนดำผมหยิกจริงเหรอ เราเลยบอกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้เห็นน่า ^^

เราถามเธอว่าชอบลูกอมเมนทอสมั้ย พรุ่งนี้จะซื้อไปฝาก เธอบอกว่า ไม่เป็นไร เกรงใจ .... แต่เราจะซื้อ ใครจะทำไม..

พรุ่งนี้จะได้เจอกันแล้วนะ ตื่นเต้นจัง ..




วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

story 1

วันนี้เป็นวันแรกของการขึ้น ม.4 เราต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอยู่คนละห้อง พบเจอเพื่อนร่วมชั้นใหม่ๆ และแน่นอน สำหรับคนที่รักสังคมอย่างข้าเลยว้อนจะมีเพื่อนเยอะๆ ค่ำนั้นเราออน MSN เหมือนอย่างเคยตามประสาเด็กมัธยมหัวโปก

"ใครรู้จักเพื่อนใหม่ ลากมาเยอะๆนะ เค้าอยากมีเพื่อนใหม่เยอะๆ"

ปิ๊งป่อง ทันใดนั้น สมาชิกในห้องแชทก็เพิ่มขึ้น จนมีราวๆสิบคนได้ เพื่อนเริ่มแนะนำเพื่อนให้เรารู้จัก เราคุยกันอย่างสนุกสนานและตื่นเต้นเป็นที่สุด ต่างคนต่างแซว ต่างพูด สรุปวันนั้นคุยกันเป็นชั่วโมงเลยจ้ะ

เดี๋ยวมาต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อย่า-อด-อาหาร!! นรกจริงๆ นี่หรือคือ โยโย่เอฟเฟค

โยโย่เอฟเฟค คำนี้คงเคยได้ยินกันมาบ้างใช่ไหมครับ? ถ้าอยู่ในวงการลดน้ำหนัก หรือเป็นผู้ที่สนใจหาวิธีลดน้ําหนักอยู่หล่ะก็ ผมเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยต้องรู้จักมันแน่นอนครับ เพราะมันคือปรากฏการณ์ เด้งกลับของน้ำหนัก ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ เวลาเราลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะด้วยการ
  • ออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่ง
  • การอดอาหารอย่างหฤโหด
  • การใช้ยาลดความอ้วน
  
พอเวลาผ่านไปดันกลับมาอ้วนเหมือนเดิม หรืออ้วนกว่าเดิมด้วยซ้ำ คล้ายๆกับเวลาเราเล่นโยโย่(ของเล่นเด็ก) หรือที่บางคนเรียกว่าลูกดิ่งนั่นแหละครับ ยิ่งออกไปมากเท่าไหร่ ยิ่งเด้งกลับมากเท่านั้น


  โยโย่


โดยเฉพาะคนที่ใช้ยาลดความอ้วน เพราะยาบางตัวจะออกฤทธิ์กดประสาท ทำให้ไม่หิว เราจึงไม่กินข้าวเลยเพราะคิดว่าไม่หิวก็ไม่ต้องกินอยากผอมเร็วๆ ก็จะเกิดอาการ กระหายน้ำ หน้ามืด ใจสั่น ตามกันมาติดๆครับ ผมท้าให้คุณไป search ดูได้เลย คนที่บ่นเรื่องกินยาลดความอ้วนแล้วโยโย่เนี่ย มีเป็นภูเขาเลากาเลยครับ เข็ดกันไปเป็นแถวๆ


ไอ้ตอนแรกๆที่เพิ่งกินก็ลดดีอยู่หรอก แต่พอหยุดยาแล้วดันอ้วน แถมตบะแตกอยากกินอาหาร กินนู่นกินนี่มากว่าเดิมอีก ด้วยคำโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่า ดักจับไขมันบ้างหล่ะ ถ่ายออกมาเป็นน้ำมันบ้างหล่ะ เจอคำพวกนี้เข้าไปเราเลยชะล่าใจไงครับ คิดว่ากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเพราะมีตัวช่วยดี แต่นั่นมันคือสัญญาณสู่ความหายนะ!!! ลองนึกดูสิครับถ้าคุณกินจนติดเป็นนิสัยเพราะคิดว่ายังไงก็ไม่อ้วนเพราะมียาดี นั่นแหละครับ ถ้าคุณหยุดยาไปนิสัยตามใจปากมันไม่หายไปจากคุณแน่นอน



   ยาลดความอ้วน

ยาลดความอ้วน   ยิ่งบางยี่ห้อนี่ออกฤทธิ์รุนแรงมากทำให้เบื่ออาหารไปเลยก็มีครับ ผมเคยกินนะตอนนั้นจำได้เลยความรู้สึกคือ แค่เห็นอาหารก็รู้สึกพะอืดพะอมอยากอวกแล้วครับจากคนที่อ้วนมาก เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด เรียกได้ว่าช่วงนั้นผอมแต่โทรมสุดๆ น้ำหนักลดลงไป 20 กิโลใน 1 ปี มีแต่คนทักว่าผอมเกินไปจนดูน่ากลัว ดูไม่สดใสเลย   อ่ะต่อครับนอกเรื่องไปไกล วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องการอดอาหาร มันนรกยังไง? บางคนอาจจะไม่รู้

แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้นะ



  คุณรู้จักคำว่า จำศีล รึเปล่าครับ มันคือการเซฟตัวเองให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด นึกภาพพวก กบจำศีล หมีจำศีลสิครับ นั่นแหละครับ ร่างกายมนุษย์เนี่ยมันสุดยอดมหาโคตะระสุดยอดจริงๆนะ ปกติอวัยวะในร่างกายคนเราจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้พลังงานจากอาหารที่เรากินไปในแต่ละวันใช่ไหมครับ ทีนี้ คำถามคือ  


จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราอดอาหาร? 



  เวลาที่เราอดอาหารร่างกายเรามันจดจำนะครับ มันจะปรับสภาพเราเข้าสู่โหมดจำศีลทันทีโดยการส่งสัญญาณให้อวัยวะต่างๆทำงานน้อยลง เซฟพลังงานไว้ใช้ให้มากที่สุดเพื่อความอยู่รอด ร่างกายเรามันไม่รู้หรอกครับว่าการที่เราไม่ได้กินอาหาร เป็นเพราะเราลดความอ้วน แต่มันจะตีความว่าเรากำลังอดอยาก และ กำลังจะ อดตาย   


ผลคือ จากปกติร่างกายเราจะใช้พลังงานประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เมื่อเราอดอาหาร ร่างกายก็จะปรับให้อวัยวะต่างๆทำงานน้อยลง อัตราการใช้พลังงานก็ลดลงเป็นเงาตามตัว อาจจะเหลือเป็นวันละ 800 กิโลแคลอรี่ก็ได้ใครจะไปรู้ มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลยถ้าคุณอดอาหาร หรือกินน้อยแบบนี้ทุกวัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ไงครับ คนเราต้องมีช่วงที่ตบะแตกบ้าง แล้วทีนี้พอคุณกลับมากินแบบเดิม ไม่ได้มากอะไรเลยนะ แค่กินข้าววันละสามมื้อตามปกติ ตีไปซักวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่แบบเดิมก็พอ แต่โอ้ชีวิต ทำไมกินแบบเดิมแต่ดันอ้วนซะนี่



ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะร่างกายเราเผาผลาญไม่หมดไงครับ เพราะร่างกายมันเข้าสู่สภาวะจำศีลไปแล้วไง ใช้พลังงานน้อยไปแล้วไง กว่าจะกู้กลับมาได้ไม่ใช่ขี้ๆนะครับ ใช้เวลาเป็นเดือนนะครับทำเป็นเล่นไป เพราะฉะนั้น  

อย่า-อด-อาหาร

อดอาหาร

และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่


วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

[การตลาด] "เหนียวไก่หาย" ทำยังไงถึงดังข้ามคืน อธิบายฉบับเกรียนๆ


ตอนนี้กำลังดังสุดๆไปแล้ว สำหรับประโยคเด็ด "เหนียวไก่หาย"

ดูได้จากผลการค้นหาจาก google




อันที่จริงก็แค่เด็กผู้หญิงคนนึง ซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดมา 30 บาท ใช่ป่ะ แล้วทีนี้นางก็เดินเข้าเซเว่นเว้ยยยย ก็เอาเหนียวไก่ทิ้งไว้ที่รถตามสเตปใช่ป๊ะ (คงไม่มีใครบ้าถือถุงข้าวเหนียวไก่ทอดเข้าไปแด๊กในเซเว่นหรอกเนอะ) .... แล้วทีนี้ นางทำธุระของนางเสร็จใช่ป่ะ นางก็ออกมาเว้ยยย แล้วเกิดไรขึ้นรู้ป่ะ? ...

.. ปิ๊งป่อง!!! เหนียวไก่หาย เฟร้ยยย โหหห อารมณ์ตอนนั้น เหนียวไก่ข้าใครอย่าแตะ


ไม่รู้ด้วยความหิวหรืออะไร นางโมโหมากกกกก โกรธสุดๆยิ่งกว่าสึนามิถล่ม เลยจัดเลย เอามือถือสุดรักมาอัดคลิปด่าคนขโมยเหนียวไก่ด้วยภาษาใต้อันเป็นเอกลักษณ์เว้ยยย เย้ดแหม่ อย่าให้กูรู้นะ จะเอาเหนียวไก่ยัดปากแม่มเลย แค่ 30 บาทยังจะขโมยกันได้ ผมนี่น้ำตาแทบไหล เย้ดแหม่


เห้ยยยยยยยยยยย คือนางด่าคนแค่นี้ นางดังได้ไง งง กันหล่ะสิ !!! 555555+ วันนี้เราจะมาชำแหละกัน ว่าทำไม คลิปนี้ถึงดัง ยอดไลค์กระหน่ำ ยอดแชร์กระจาย มีปัจจัยอะไรส่งเสริมให้คนแห่ดูและแชร์คลิปขนาดนั้น ขอแนะนำว่านักการตลาดต้องศึกษาไว้เลยหล่ะ เพราะมันเอาไปสร้างแนวทางในการทำคลิปด้านการตลาดให้โดนใจได้ ตามมาเลยครับ!


9 เหตุผล ที่ทำให้เหนียวไก่ดังไปถึงสรวงสวรรค์  คืออะไร? What!!!???



1. ขำ ดูแล้วรู้สึกตลก : Humorous 

คนไทยชอบนักครับ อะไรที่มันตลกๆคลายเครียดเนี่ย ดูอย่าง แก๊งค์สามช้า หม่ำ เท่ง โหน่ง ตุ๊กกี้ชิงร้อยชิงล้าน พวกนี้ยอดวิวกระหน่ำครับ คนไทยชอบบบบ


2. จริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่เฟก : To be frank 

ไม่ Fake ไม่ปลอม ดูจริงใจ อยากด่าก็ด่า ไม่แคร์ ถ้าใครได้ดูคลิปคงจะดูออกนะครับ ว่าเจตนาน้องนี่ไม่ได้ต้องการดัง คือกูโมโห กูอยากระบายแค่นั้นแหละ ไม่ได้มีการจัดมุมหรือแอคท่าไปมา คือกูคิดไรได้กูพูดเลย ประมาณเนี๊ยะแหละ คนเลยชอบกัน เพราะมันดูตรงดี


3. เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ เดือดจัด ไม่ไหวแล้ว!! : Emotional 

ความหงุดหงิด เซ็ง โมโห เสียดาย เสียดสี เสียดแทง ประชด สารพัดครับ เต็มไปหมด คนดูจะสามารถเก็บอารมณ์ซึมซับในนั้นได้ทั้งหมด ทำให้จำได้ ที่สำคัญ คำว่า เย้ดแหม่ นี่พูดบ่อยมากครับ ลองไปนับดู สร้างการจดจำได้มากพอตัว


4. มีความเป็นโอทอป : Localization 

คือสิ่งที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่นั้นๆครับ เนื้อหาที่สะท้อนความเป็นชุมชน (ความเป็นบ้านๆ) ในคลิป แค่เราเห็น "น้องล่า" เราก็รู้ได้ทันทีเลยว่า นางเป็นเด็กใต้ เป็นคนใต้ และคำพูดเร็วๆ โช๊ะๆแบบนี้ แล่งใต้กันไปเลยนิ


5. เป็นเรื่องใกล้ตัว : Surrounding

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกคนครับ คนเรามักจะชอบใจ และเห็นด้วยกับอะไรๆที่ใกล้ตัว หรือเคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน เช่น การโพสรูปหมาหน้าเซเว่น เป็นต้น (ซึ่งทุกคนรู้อยู่แล้วว่าหน้าเซเว่นส่วนใหญ่มีหมานอนเฝ้าแทบทุกที่) เมื่อโดนใจก็จะเกิดการแชร์ครับ


6. หยาบคาย : Rudeness

คำหยาบคาย รู้มั๊้ยครับ ทำไมถึงต้องหยาบคาย? เหตุผลหลักคือ "มันเข้าถึงอารมณ์" ใช่ครับ!!! คำสบถ คำด่า จะให้ด่าเป็นภาษาดอกไม้เหรอครับ

โถ พ่อหัวขโมย แค่ 30 บาท ถึงกับต้องขโมยกันเลยเหรอ ขอดีๆก็ได้ เราจะซื้อให้ใหม่เลย เงินเราเยอะ


เฮ้ยย!! มันแปลกๆป่ะวะแก 555555 มันต้องอย่างงี้ดิ

มันไม่มีปัญญาซื้อเหรอ 30 บาท แค่นี้มึงยังจะขโมย เย้ดแหม่ อย่าให้กูรู้นะกูจะเอาเหนียวไก่ยัดปากให้ เย้ดแหม่ นี่ๆ เงินกูเต็มกระเป๋า เย้ดแหม่


เข้าถึงอารมณ์กว่าป่ะ 55555555



7. มีความลับ : Mysterious

ทิ้งประเด็นให้คนคุ้ยต่อ ใครคือคนขโมยข้าวเหนียวไก่ ทำให้เรื่องมีความดึงดูดน่าคนสนใจสร้างความกระหายที่จะรู้


8. ต่อยอดได้ : User Generated Experience 

ครับ ดูได้เลยครับ มีคนเอาคลิปไปตัดต่อเป็นเวอร์ชั่นใหม่ๆเยอะมาก ทั้งเวอร์ชั่นแร็ป เวอร์ชั่นรวมมิตรข่าวเหนียวไก่หาย เรียกได้ว่าเพิ่มความสร้างสรรค์และยืดเวลาการติดกระแสไปได้อีกสักพักเลยหล่ะ ยิ่งค้างในกระแสนานเท่าไหร่ คนก็ยิ่งรู้จักมากเท่านั้น


9. สร้างผลกระทบ : Effect 

สำนักข่าว สื่อ ให้ความสนใจ (ตามกระแส พูดง่ายๆว่า เกาะเด็กดัง นั่นแหละครับ) และตอนนี้ก้มีคนสร้างเพจน้องล่า ลักเหนียวไก่ เป็นแฟนคลับกันจริงๆ จังๆ แล้ว




สำหรับ ใครที่ยังไม่ได้ดูคลิป จัดไปครับ (Credit : น้องล่า ยกล้อ)




มี เหนี่ยวไก่หาย เวอร์ชั่นแร๊พด้วย ผมดูอันนี้แล้วผมฮาขี้เล็ดเลย
ภาพประกอบนี่แบบ 55555 ต้องดูครับ ต้องดู



 มีซับไตเติ้ลด้วยนะ ฮามาก คอนเฟิร์ม!!!


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นชื่อว่า กระแส สักวันมันก็ร่วงครับ เดี๋ยวคนก็เบื่อและเลิกสนใจไปเอง เหมือนแฟชั่นนั่นแหละ บางทีก็ฮิตกางเกงขาม้า บางทีก็ฮิตกางเกงขาเดฟ เพียงแต่แฟชั่น มันมีขึ้นลงๆตลอด แต่กระแสที่เป็นตัวบุคคลต่างกันครับ นอกซะจากจะมีคนตีข่าวขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าเวลาผ่านไปจะให้ดังเหมือนเดิมนับว่ายากมาก ตัวอย่างก็มีให้เห็น เช่น วลีฮิต เรื่องนี้ถึงครูอังคนาแน่ หรือ เขย่าโคอะล่ามาร์ช เป็นต้น




เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก

Time Chuastapanasiri
www.thairath.co.th








วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

มือใหม่หัดปั่น Amazon และ เว็บ talk2book.com ของฉัน

เย้ๆๆๆๆๆ วันนี้ได้มีโอกาสลงมือทำ สิ่งที่เค้าเรียกว่า "ปั่น" กันสักที นี่เว็บหนูนะ talk2book.com

เคยเห็นเทพๆหลายคนในบอร์ด thaiseo โชว์ยอดกันบ้าง โชว์แนวคิดกันบ้าง รู้สึกอิจฉาเบาๆ แต่ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะไม่เคยแม้กระทั่ง เช่าโฮส หรือ จดโดเมนเอง ขอบอกเลยว่า เป็นอะไรที่แบบ เปิดประสบการณ์ชีวิตมากจ้ะ ฉันทำอะไรไม่เป็นเลย ถุยยยย 55555555

หนังสือเล่มนี้ แถวบ้านไม่มีขาย T^T

ล่าสุดนี่ก็ลองตั้งใจอ่านอีกครั้ง ลองจดโดเมน เช่าโฮส แบบงูๆ ปลาๆ ก็ได้มาเรียบร้อย ชื่อ talk2book.com แต่ตอนตั้งค่านี่ สำหรับมือใหม่แล้วยากชิบหาย คืองมโข่งอยู่ตั้งนาน ว่าทำไมมันเข้าเว็บไม่ได้สักทีวะ เข้าไปก็เป็นหน้าของ godaddy ตล๊อดดดด บลาๆๆๆๆๆ สรุปสุดท้าย อ๋ออออออออ เก็ทเลย กูยังไม่ได้เปลี่ยนค่า IP ให้ชี้ไปที่โฮสตัวเอง นี่มันคนหรือควาย T[]T


อ่ะ ต่อๆๆๆๆ เราจดโดเมน โดยใช้คูปองของ godaddy นะ งมหาจาก thaiseo นั่นแหละ มีคนเอามาแจกอยู่ ก็จดไป ได้มาราคาประมาณ 98 บาท(แต่กว่าจะหาโค้ดที่จดแล้วผ่านได้นี่ ลองเป็นสิบโค้ด)
แล้วก็เช่าโฮสของ hostgator



ทีนี้พอเตรียมการเสร็จละ ก็ไปซื้อสคริปปั่นอเมซอนมา ราคา 1,999 บาท ตอนแรกก็ลังเลอยู่นาน ว่าจะเอาตัวไหน เพราะมีเยอะมาก หลากหลายโคตรๆ มีทั้งแบบสร้างเป็นร้านค้า(Store) คือหน้านึงมีเป็นร้อยๆสินค้า ทั้งสร้างเป็นแบบ Review คือหน้าละสินค้า (จริงๆอยากได้2อันเลย แต่ตังไม่พอ)

เริ่มปั่นๆๆๆๆ ไป ยังขายไม่ได้หรอก ปั่นมั่วมากตอนนี้ แต่ตื่นเต้นมากเลยอ่ะ 5555555 ต้องหาเทคนิคใหม่ไปเรื่อยๆหล่ะนะ ^^ ตอนนี้กำลังคิดจะจดโดเมนเพิ่มอีกอันนึง จะทำ google Adsense เว็บไทย บทความไทย โดเมนไทยนี่แหละ แต่จะทำเป็นเว็บคุณภาพ สายขาวจั๊วะๆ

เทพบางคนทำหลายปี กว่าจะเจอทาง ของเราเพิ่งเริ่มเอง อย่าพึ่งท้อ สักวันข้าจะเทพ :D:D:D

ตอนนี้เจนไปได้พันกว่าโพสละมั๊ง เลือกหมวดหนังสือ กับเกม คือนี่ไม่ได้กะรวยนะ เพราะรู้ว่าตอนนี้ยังอ่อนประสบการณ์ แถมจะโดนแบนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก็อ่านๆเทคนิค วิธีปั่นจากเว็บ thaiseo ที่หลายๆคนแชร์ไว้ จะให้ติดอันดับกูเกิ้ลได้ ต้องใช้บทความที่ไม่ซ้ำ วิธีแก้ขัดก็คือใช้วิธีเปลี่ยนคำอัตโนมัติสปินๆ เอานั่นหล่ะ ก็เราไม่เก่งอังกฏษ นี่หว่า หลอกบอทได้ แต่คนเข้ามาอ่านแล้วจะซื้อมั๊ย นั่นอีกเรื่องนึง เฮือกกกกกกกกกก

อ้อ! พูดถึงเรื่องอังกฤษ ตอนนี้เรากำลังจะอ่านหนังสือชื่อ แกรมม่านิดๆก็เขียนอังกฤษได้สบาย เราว่าภาษามันโอเคอ่ะ อ่านไม่เบื่อ ไว้อ่านจบเมื่อไหร่จะมาเล่า มารีวิวให้ดูกันเนอะ

ตอนนี้เราขอตัวไปทำอะไรให้มันมีประโยชน์กับสมองก่อนละกัน
เตรียมตัวออกเดินทางเข้าป่าอเมซอน อิอิ

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ลดความอ้วนกันเถอะ

ลดความอ้วน !!!! คำนี้ก้องอยู่ในหัวมาหลายเดือนละ แต่ทำไม่ได้สักที ถามว่าเครียดมั้ย? ก็เครียดนะ ตั้งใจคุมอาหาร แต่พอได้แดกเท่านั้นแหละ แดกไม่หยุดเลย T_T

คือเราเป็นคนอ้วนแต่เด็ก(ที่บ้านเลี้ยงดี) เมื่อก่อนเราเคยอ้วน มากกกกกกกกกกกก ตอนนั้นเราอยู่ ม.6 สูง 162 น้ำหนัก 83 เรียกได้ว่า... โชคดีที่อายุแค่ 17 เลยยังไม่เป็นโรค มามหาลัยก็เริ่มลดน้ำหนัก เข้าฟิตเนสวันละชั่วโมง สองชั่วโมง คาดิโอ้ ยกเวท น้ำหนักก็ลงเรื่อยๆ 

ปีแรกลดเหลือ 76 
ปีที่ 2 เหลือ 69 
ปีที่ 3 เหลือ 59 
ปีที่ 4 ไม่ได้เข้าฟิตเนสเลย แถมกินจุกจิกด้วย(มึแฟนเลยพากันกิน)

น้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ เป็น 67
ล่าสุดนี่ช่วงพีค แบบบ พีคสัสๆ ตอนนี่ขึ้นมาเป็น 75 แล้วอ่ะ ช็อกมากกกกกกกก แถมออกกำลังกายเหนื่อยกว่าเดิมเลย ออกได้แปบเดียวก็ขี้เกียจละ ดสียนิสัยมาก TT

เมื่อก่อนเราเคยอ่านหนังสือ "อ้วนศาสตร์" ช่วงนั้นแรงบันดาลใจเพียบอ่ะ ลดหุ่นได้แบบ เฉลี่ย ปีละ 10 กิโล บวกกับกินยาลดความอ้วน(reduceเม็ดเหลือง) กับ one day diet เลยทำให้ไม่หิวเลย บางทีเห็นข้าวก็กินไม่ลง


วันนี้เริ่มลดน้ำหนักจริงจังละ

1.คุมอาหาร
2.โดดเชือกวันละ 1000

ต้องทำให้ได้ เป้าหมาย = 7 กิโล สู้ๆ